จากที่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้เมื่ออัดเสียงจากไมโครโฟนสองตัวเข้าไปยังกล้องด้วยสาย SC11 สัญญาณเสียงจาก 2 Channel จะถูกรวมเป็น 1 Channel แต่ยังคงแยกสัญญาณกันอยู่ด้วยกันบันทึกเสียงแบบ Stereo จากทางซ้ายและขวาจากช่อง input ของกล้อง
สายสัญญาณฝั่งสีดำนั้นจะบันทึกเสียงเป็นสัญญาณฝั่งซ้ายในขณะที่สายฝั่งสีแดงจะเป็นสัญญาณเสียงฝั่งขวาซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการ Monitor เสียงตัวอย่างเช่น คุณกำลังบันทึกการสัมภาษณ์คนสองคนอยู่ด้วย Wireless GO และคุณรู้สึกว่าเสียงที่ได้รับจากข้างใดข้างหนึ่งดังกว่าและกำลังจะขึ้นถึง peak คุณจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นไมโครโฟนตัวไหนและคุณจะสามารถบอกให้ผู้พูดคนนั้นลดเสียงลงหรือทำการปรับ Gain ของช่องนั้นๆลงได้ทันที
การมีสัญญาณเสียง 2 ช่องแยกออกจากกันมีประโยชน์ในการทำ post-production เช่นเดียวกันเพราะคุณสามารถ mix หรือ ปรับแต่งเสียงได้โดยอิสระทั้งสองช่อง
อย่างเช่น คุณใช้ไมโครโฟนสองตัวเพื่อทำการ backup การบันทึกของคุณ โดยคุณสามารถใช้งานเสียงจากช่องที่คุณ backup ไว้มาใช้งานแทนช่องหลักที่ไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเสียงที่มีความชัดเจนมากกว่าไมโครโฟนตัวที่มีปัญหา หรือเมื่อคุณอัดเสียงการสัมภาษณ์และผู้พูดคนหนึ่งพูดเบากว่าอีกคนคุณสามารถเพิ่มเสียงของคนที่พูดเบาขึ้นเพื่อทำให้เกิด balanced ขึ้น
การนำเข้าเสียง
เมื่อนำเข้าไฟล์เสียงไปยังโปรแกรมสำหรับปรับแต่ง หรือจะเป็นการนำเข้าไปใช้งานกับ Digital Audio Workstation (DAW) อย่างเช่น Logic Pro หรือโปรแกรมสำหรับตัดต่อวีดีโออย่าง Premiere Pro จะเป็นการโหลดไฟล์เสียงเข้ามาเป็นแบบ stereo แต่จะรวมกัน track เดียว คุณจำเป็นต้องแยกเสียงทั้งสองช่องออกจากกันเพื่อทำการปรับแต่งเสียง
การใช้งานใน Premiere Pro นั้นคุณจะต้องทำซ้ำไฟล์ ‘Duplicate’ เสียงของคุณโดยการคลิกขวาที่ track ที่ต้องการจากนั้น เลือกที่ ‘duplicate’ จากนั้นคุณจะได้ track ที่แบ่งออกเป็นสอง track จากนั้นให้เลือก channel ของไฟโครโฟนที่ต้องการไปยัง output
คลิกขวาที่ track เสียงอันแรกที่ต้องการ และเลือก ‘Audio Channels’ จากนี้คุณสามารถเลือก channel ที่จะเลือกเป็น track หลัก เลือกปิดข้างขวาในช่องและกด ‘OK’ จากนั้น track นี้จะถูกสร้างเป็น Mono Track เพื่อให้คุณได้ยินเสียงจากช่องนี้เป็น Channel เดียว