NT-USB Mini นำคุณภาพเสียงดั้งเดิมของไมโครโฟนสตูดิโอระดับโลกของ RØDE มาสู่ไมโครโฟน USB ขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่ชัดใสและมีคุณภาพระดับมืออาชีพ ส่งตรงไปยังคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต เป็นไมโครโฟนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเล่นเกม คนทำพอดคาสต์ นักดนตรี นักสตรีมมิ่ง และผู้ที่ต้องการสร้างคอนเท้นต์ ที่ต้องการการรับฟังอย่างเต็มรูปแบบ
คุณสมบัติที่สำคัญ:
ปุ่มกดบน NT-USB Mini มีหน้าที่ทำอะไร?
ปุ่มกดบน NT-USB Mini คือ ปุ่มควบคุมระดับสัญญาณ output ของหูฟัง ซึ่งไม่ใช่ input – หากจะปรับระดับ input จะต้องทำในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อัดเสียง ปุ่มนี้ยังสามารถเปิดใช้งานโหมด zero-latency monitoring ซึ่งสามารถเปิดการใช้งานได้โดยการกดที่ปุ่ม ซึ่งจะปรากฎบนแผง LED ทางด้านบนซ้าย
อะไรคือความแตกต่างระหว่าง NT-USB กับ NT-USB Mini?
NT-USB Mini มีขนาดกะทัดรัดมากกว่า NT-USB นอกจากนี้ยังมี pop filter ในตัว ที่มีฐานเป็นแม่เหล็ก สามารถดึงออกมาได้อย่างง่ายดาย หมุนได้ 360 องศา และมีความคล่องตัวและควบคุมได้ง่ายกว่า
NT-USB Mini สามารถใช้กับหูฟังที่เป็น high-impedance ได้หรือไม่?
แอมป์หูฟังใน NT-USB Mini มีประสิทธิภาพมาก และสามารถใช้งานหูฟังที่เป็น high-impedance ได้อย่างง่าย
ฉันจะปรับระดับที่ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร?
ตัว input ของ NT-USB Mini สามารถควบคุมได้ผ่านการตั้งค่าระบบ สำหรับ Mac จะอยู่ใน ‘Sound Preference’ > ‘Input’ > ‘Input Volume’ สำหรับ PC จะอยู่ใน ‘Recording Devices’ > กดที่ “NT-USB Mini” > ‘Properties’ > ‘Levels’ ปุ่มปรับระดับความดังเสียงจะควบคุม output ที่ส่งไปยังหูฟังของคุณ
NT-USB Mini มี pop filter ไหม?
NT-USB Mini มี pop filter ในตัว ที่จะช่วยลดเสียงแตก ซึ่งแตกต่างกับ NT-USB ที่มี pop filter อยู่ด้านนอก
โหมด zero-latency monitoring ทำงานอย่างไร?
เมื่อคุณอัดเสียงลงคอมพิวเตอร์ คุณมักจะต้องการตรวจสอบสิ่งที่คุณบันทึกหรืออัดผ่านหูฟัง ตั้งต้นจากเสียงจะถูกส่งจากไมโครโฟนไปที่คอมพิวเตอร์และจะถูกประมวลผลโดยซอฟท์แวร์บันทึกเสียง หลังจากนั้นจึงจะส่งกลับไปที่หูฟัง ซึ่งปัญหาคือเศษของช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ประมวลผล และส่งเสียงกลับไปที่หูฟัง ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าของเสียงที่ส่งกลับมา หรือที่เรียกกันว่าความหน่วง จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ
ความล่าช้านี้จะทำให้เสียงที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติได้ยากมาก ไม่ว่าคุณจะร้องเพลงหรือพูด โหมด zero-latency monitoring จึงจะช่วยขจัดปัญหาความล่าช้านี้ออกไป ซึ่งสามารถทำได้โดยการส่งข้อมูลจากไมโครโฟนตรงไปที่หูฟังได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ผ่านคอมพิวเตอร์ สัญญาณนี้มาพร้อมกับ output จากคอมพิวเตอร์ ดังนั้น คุณก็ยังสามารถได้ยินเสียงที่ออกมา (ยกตัวอย่าง backing track ในขณะที่คุณร้องเพลง) แต่จะให้ประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติและสบายหูมากยิ่งขึ้น
เพื่อเปิดการใช้งานในโหมดนี้ เพียงกดปุ่มปรับระดับเสียงข้างหน้า NT-USB Mini คุณก็จะสามารถฟังเสียงจากไมโครโฟนผ่านหูฟังคุณได้ทันที เพื่อปิดการใช้งานโหมดนี้ เพียงคลิกปุ่มปรับระดับเสียงใหม่อีกรอบ
Note: เมื่อใช้งานโหมด zero-latency monitoring คุณอาจต้องการปิดเสียงช่องไมโครโฟนในซอฟต์แวร์ของคุณขณะบันทึก เพื่อที่คุณจะได้ฟังเสียงมิกซ์อย่างเดียว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้เสียงที่ไร้เสียงสะท้อนและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฉันเปิดโหมดตรวจจับ zero-latency แล้ว แต่ฉันยังได้ยินเสียงสะท้อนในไฟล์บันทึกเสียง ฉันจะหยุดมันได้อย่างไร?
ถ้าคุณยังได้ยินเสียงสะท้อนในขณะที่เปิดใช้งานโหมดตรวจจับ zero-latency บน NT-USB Mini คุณต้องปิดตัว output ไมโครโฟนบนซอฟต์แวร์อัดเสียงของคุณ
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเพิ่มเสียงดนตรีเข้าไปในเพลง ซึ่งบนซอฟต์แวร์อัดเสียงของคุณจะมีส่วนประกอบอื่นๆ ในเพลงด้วย เช่น กลอง กีต้าร์ หรือเบส คุณสร้างแทร็กสำหรับเสียงร้องและกำหนดให้ NT-USB Mini อัดเสียง โดยเป็นไปได้ที่ไฟล์ DAW ของคุณจะยังส่ง output ของไมโครโฟนกลับไปที่หูฟังพร้อมกับเสียงมิกซ์ทั้งหมด คุณจะได้ยินสิ่งนี้เพิ่มเติมจากเสียง zero-latency จากไมโครโฟน ซึ่งทำให้เสียงของคุณอาจฟังเหมือนมีเสียงสะท้อนหรือเสียงซ้อน
เพื่อที่จะป้องกันปัญหานี้ ให้ปิดเสียงแทร็กของคุณในซอฟต์แวร์ในขณะที่คุณกำลังอัดเสียง นั่นหมายความว่าคุณจะได้ยินสองสิ่งในหูฟัง ซึ่งก็คือเพลงมิกซ์ทั้งหมดที่ไม่มีเสียงร้อง และเสียง zero-latency monitor ของเสียงคุณ ซึ่งจะทำให้ได้เสียงอัดที่เป็นธรรมชาติมากกว่า
เมื่อคุณอัดเสียงเสร็จ อย่าลืมกดเปิดเสียงเพื่อที่คุณจะสามารถฟังเสียงแทร็กที่เพิ่งอัดลงในมิกซ์ และกดปิดการใช้งาน zero-latency monitoring เพื่อที่คุณจะได้แก้ไขมิกซ์โดยที่ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ โดยรอบที่จะเข้าไมโครโฟนและส่งไปที่หูฟังของคุณ
ระยะห่างแค่ไหนถึงจะดีที่สุดกับไมโครโฟนนี้?
NT-USB Mini คือไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ ซึ่งค่อนข้างที่จะมีความไวและสามารถที่จะจับเสียงที่อยู่ไกลจากไมโครโฟนได้ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การอัดเสียงกีต้าร์อะคูสติกไปจนถึงการสนทนาทางวิดิโอขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะ สำหรับการร้องเพลง ไลฟ์สตรีม หรืองานพากย์เสียง เราแนะนำให้ตั้งไมโครโฟนห่างจากปากประมาณ 10-15 เซนติเมตร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด วางไมโครโฟนใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงจะช่วยปรับปรุงเสียงรบกวนรอบข้างได้มากขึ้น
Accessories ใดบ้าง ที่ NT-USB Mini สามารถใช้งานด้วยได้?
NT-USB Mini สามารถใช้งานได้กับ PSA-1, DS1, ขาตั้งกล้องและเสาของ RØDE ทั้งหมด
NT-USB Mini สามารถใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์และแท็บเลตทุกชนิดหรือไม่?
NT-USB Mini ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ที่สนับสนุนเสียง class-compliant ซึ่งรวมถึง PC, Mac, Android และ USB-C iPad Pro นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ lightning iOS เมื่อใช้กับชุดอุปกรณ์เชื่อมต่อกล้อง ถ้าหากมีคำเตือนบนอุปกรณ์ของคุณว่าไมโครโฟนใช้พลังงานมากเกินไป เพียงแค่เสียบพอร์ตไฟของอะเแดปเตอร์เข้ากับแหล่งจ่ายไฟ