Updated on 10 December 2022
เทรนด์การทำงานในปัจจุบันถือว่ามีทางเลือกที่มากกว่าแค่การอยู่ที่ออฟฟิศเท่านั้น ซึ่งมีองค์กรมากมายทั่วโลกที่มีมาตรฐานทำงานแบบ Hybrid Work นั่นหมายความว่า ใน 1 สัปดาห์ ต้องมีอย่างน้อย 1-2 วันที่พนักงานจะสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีการเชื่อมต่อผ่านทางออนไลน์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่คาเฟ่ชิลล์ ๆ รีสอร์ตสวย ๆ และแน่นอนว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกทำงานที่บ้านในวันสบายๆ ของพวกเขา
อุปกรณ์สำคัญในการประชุมและการเรียนออนไลน์ หลายคนคงนึกถึง โทรศัพท์มือถือ หรือโน้ตบุ๊กดี ๆ และ Internet เร็ว ๆ แรง ๆ แต่รู้ไหมคะ ว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้เลย คือ ไมโครโฟน โดยประมาณ 70% ของปัญหาเสียงขาดหาย ฟังไม่ชัด มีเสียงก้องและสะท้อน ไม่ได้เกิดจากความเร็วและแรงของ Internet หรือสถานที่เท่านั้น แต่เกิดจากไมโครโฟนที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย แล้วแบบนี้เราควรเลือกไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดีที่เหมาะสมกับการใช้งาน? ติดตามได้ในบทความนี้
7 ไมค์ประชุมออนไลน์ และสตรีม ยี่ห้อไหนดี? 2024
ฟิวชั่น ฟาร์ อีสท์ เป็นผู้นำเข้าไมโครโฟนแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Rode ทั้งที เลยอยากมาแนะนำไมค์จาก Rode สำหรับการทำงานและประชุมออนไลน์ ให้ทุกคนได้ Work From Home กันอย่างสบายใจ เสียงไม่ติดขัดขณะประชุม ช่วยให้ไม่พลาดเรื่องเด่นประเด็นสำคัญ ใครที่ไม่เคยมีความรู้เรื่องไมค์มาก่อนอย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะที่เราจะพูดถึงกันต่อไปนี้ ไม่มีข้อมูลเชิงเทคนิคเพื่อคุณให้เข้าใจวิธีใช้งานว่าง่ายมาก ๆ เพียงต่อไมโครโฟนเข้ากับมือถือหรือโน้ตบุ๊กนั้น ง่ายนิดเดียว! ใครที่ไม่รู้จะเลือกไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดี? ไปดูกันว่ามีไมค์รุ่นไหนอะไรน่าสนใจบ้าง
1. Rode SmartLav+ และ Rode Lavalier Go
ไมค์ประชุมออนไลน์ Rode SmartLav+ นั้นเหมาะสำหรับใช้งานกับมือถือ และโน้ตบุ๊ก มีสายต่อหัวแจ๊ค 3.5 mm. แบบ TRRS เข้าช่องหูฟังที่มือถือได้เลย แต่สำหรับการต่อเข้ากับโน้ตบุ๊ก จำเป็นต้องใช้ adapter เพิ่มเติม ได้แก่ Rode SC3 และต่อเข้ากับ USB External Sound Adapter เพื่อให้เสียบหูฟังได้
สำหรับโน้ตบุ๊ก Windows แค่ต่อสายเข้าที่รูแจ๊ค 3.5 mm. จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาถามว่า เราต่ออะไรเข้ามา ให้เลือกเ)็น mic in ก็สามารถเริ่มใช้งานได้เลย แต่หากใช้ MacBook จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติม โดยทำได้ดังนี้ เมื่อเสียบสายแล้ว ให้ไปตั้งค่าที่เมนู Sound และไปที่ Input แล้วเลือก External Microphone เป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานไมค์แล้วค่ะ
หากสายของ Rode SmartLav+ มีความยาวไม่เพียงพอ สามารถใช้สาย connector เพิ่มเติมอย่าง Rode SC1 เพื่อต่อให้ยาวขึ้นได้ถึง 6 เมตร เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
สำหรับไมค์ประชุมออนไลน์ Rode Lavalier Go นั้นถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานกับ Rode Wireless Go เหมาะสำหรับใช้งานกับกล้องอย่าง DSLR ด้วยหัวต่อ 3.5 mm. มาตรฐานแบบ TRS ที่ราคาไม่แพง และใช้งานง่าย แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Rode Lavalier Go สามารถใช้ต่อเข้ากับมือถือ และโน้ตบุ๊กได้เช่นกัน แต่จะต้องมีสาย connector เพิ่มเติม คือ Rode SC3, Rode SC4 และ และต่อเข้ากับ USB External Sound Adapter เพื่อให้เสียบหูฟังได้ เพื่อแปลงให้เป็น TRS to TRRS สำหรับต่อเข้ามือถือหรือโน้ตบุ๊ก จากนั้นใช้งานและตั้งค่าแบบเดียวกับ Rode SmartLav+ เป็นไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดีที่ฟังก์ชันครบครันสุดๆ
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ราคาเหมาะสม คุณภาพเสียงดี
- ติดตั้งใช้งานง่าย ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมยุ่งยาก
- ขนาดเล็ก ไม่ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บเยอะ และเคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อเสีย
- อาจมีเสียงรบกวน หากมีการเคลื่อนไหวมาก ๆ และ Windsheild โดยเสื้อ หรือติดไมค์ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม
- ความยาวของสายอาจทำให้ไม่คล่องตัว ต้องใช้ adapter เพิ่มเติม
ราคา
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
2. Rode NT-USB Mini และ Rode NT-USB
ถ้ายังไม่มีรุ่นในใจว่าจะเลือกไมค์ประชุมออนไลน์ ยี่ห้อไหนดี? ที่จะให้เสียงที่ดีขึ้นเมื่อประชุมออนไลน์ ขอบอกเลยว่า Rode ยังมีหมัดเด็ดอย่าง Rode NT-USB Mini ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ราคาเบา ๆ แต่คุณภาพเกินเบอร์ และตัวแม่ของวงการ USB Mic อย่าง Rode NT-USB ที่รับรองว่าจะได้เสียงที่เคลียร์ คมชัด ตั้งแต่ต้นจนจบ รูปแบบการรับเสียงแบบ Cardioid ถูกปรับให้เหมาะสม เพื่อลดเสียงรอบข้างและเน้นไปที่เสียงบทสนทนา เสียงร้อง หรือเครื่องดนตรี และยังมี Pop Filter ในตัวที่สร้างขึ้นเพื่อลดเสียงสะท้อน
แม้จะไม่ใช่ไมค์ประชุมไร้สายแต่ก็ใช้งานง่ายเพียงแค่ต่อสาย USB ที่มีมาให้ในกล่องเข้ากับโน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโดยตรง ไม่ต้องใช้ Audio Interface หรือ Mixer ใด ๆ จากนั้นต่อหูฟังเข้าที่ไมค์ โดย Rode NT-USB Mini และ Rode NT-USB มีฟังก์ชัน Zero-latency จึงทำให้ได้ยินเสียงจริง ๆ จากไมโครโฟน โดยที่ไม่รู้สึกถึงการหน่วงของเวลาช่วยในเรื่องลด Echo ได้มากขณะที่กำลังใช้เสียงพูด และยังสามารถปรับระดับความดังที่ปุ่มหน้าไมค์ได้อีกด้วย
สำหรับโน้ตบุ๊ก Windows แค่ต่อสาย USB ก็เริ่มใช้งานได้ แต่หากใช้ MacBook จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติม เมื่อต่อสายเข้ากับโน้ตบุ๊ก ให้ไปตั้งค่าที่เมนู Sound และไปที่ Input และ Output แล้วเลือก Rode NT-USB Mini หรือ NT-USB ซึ่งเมื่อทำการตั้งค่าไว้แล้ว ครั้งต่อไปที่มีการใช้ไมค์ต่อเข้ากับอุปกรณ์ จะทำการจดจำอัตโนมัติและใช้งานได้โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่ เท่านี้คุณก็ไม่ต้องอึดอัดเวลาที่พูดไปแล้วอีกฝั่งไม่ได้ยินหรือบ่นว่าเสียงไม่ชัดแล้วค่ะ
นอกจากนี้แล้ว Rode NT-USB ยังสามารถทำได้มากกว่าแค่การประชุมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการต่อเข้ากับกับ Tablet เพื่อการบันทึกเสียง หรือจะเป็นไมค์สตูดิโอใช้ในการร้องและเล่นดนตรี ทำ podcast และ การแคสเกมส์ ก็ทำได้ง่ายและคุณภาพดี
หากต้องการต่อ Rode NT-USB เข้ากับมือถือ ก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่มีหัว Adapter แบบ USB to Lightning (1) สําหรับ iOS และ USB to USB-C (2) สําหรับ Android
ส่วน Rode NT-USB Mini สามารถใช้ adapter ของ Rode ที่เพิ่งออกมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ ได้แก่ Rode SC17 USB-C to USB-C, Rode SC18 USB-C to USB และ Rode SC19 USB-C to Lightning
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ราคาถูก เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงที่ได้
- มี interface ในตัว ใช้งานง่ายด้วยสาย USB มาพร้อมในกล่อง
- ฟังก์ชั่นดี กรองเสียงรบกวนหรือเสียงสะท้อนได้ดีมาก
- ดีไซน์สวย มี Accessories ครบ
- สำหรับ Rode NT-USB Mini มีขาตั้งไมค์หมุนได้ 360 องศา
ข้อเสีย
- ไม่มี High Pass Filter
- Rode NT-USB มีขาตั้งไมค์พับเก็บไม่ได้ และไม่มั่นคงล้มง่าย
ราคา
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
3. Rode VideoMic NTG
หลังจากที่ได้แนะนำไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดีรุ่นเล็ก รุ่นกลาง ๆ ไปแล้ว ยังมีอีกรุ่นที่เราอยากนำเสนอก็คือ Rode VideoMic NTG เป็นไมค์ประชุมออนไลน์รุ่นใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย แต่ยังคงใช้งานง่าย ไม่ต้องมือโปรก็ใช้ได้ และยังใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งกล้อง โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มือถือ เครื่องบันทึกเสียง และ Tablet ด้วยฟังก์ชัน Full USB สะดวกในการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ต้องการ คุณภาพเสียงละเอียด คมชัดดีมาก
Rode VideoMic NTG สามารถเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ได้ผ่านสาย USB มีช่องต่อหูฟังในตัว พร้อมฟังก์ชัน Zero-latency ทำให้สามารถฟังเสียงได้โดยไม่มีการหน่วงของสัญญาณ หรือ latency และเนื่องจากเป็นไมค์ชนิด Shotgun จึงสามารถวางห่างจุดกำเนิดเสียง หรือผู้พูดได้ มีองศาของการรับเสียงของไมโครโฟนที่แคบ ช่วยป้องกันเสียงรบกวนรอบข้าง และสามารถปรับระดับความดังของเสียงจากตัวไมค์ที่ส่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ เช่นกล้อง หรือหูฟังได้ และฟังก์ชันพิเศษ Safety Channel ช่วยลดระดับสัญญาณเสียงข้างซ้ายลง -10dB ในกรณีที่ส่งไปบันทึกยังอุปกรณ์อื่นๆ หากมีการแตกของสัญญาณเกิดขึ้น จะมีสัญญาณเสียงอีกส่วนที่ยังอยู่ในระดับที่ใช้งานได้
และเพื่อเพิ่มสะดวกมากขึ้น ยังสามารถใช้สาย Rode SC15 ซึ่งเป็นชนิด USB-C to Lightning และ Rode SC16 เป็นแบบ USB-C to USB-C เพื่อให้ใช้ได้กับอุปกรณ์ทั้ง iOS และ Android
Rode VideoMic NTG มาพร้อมกับฟองน้ำกันลม ไม่ว่าจะพัดลม แอร์ ลมจากภายนอกต่าง ๆ ที่อาจรบกวนการประชุมได้ และยังมี Shock Mount ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสั่นสะเทือน ติดตั้งกับขาไมค์ได้ทั่วไป หรือจะขาตั้งมือถือ หรือขาตั้งกล้อง หัวกล้อง ก็ไม่มีปัญหา ของดี เทคนิคไม่ต้องจริง ๆ ค่ะตัวนี้
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ราคากลางๆ แต่คุณภาพเสียงที่ได้เทียบเท่าไมโครโฟนระดับโปร
- เสียงดีมาก ได้เสียงใสเป็นธรรมชาติ
- ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งกล้อง โน้ตบุ๊ก มือถือ เครื่องบันทึกเสียง และ Tablet
- มีฟังก์ชั่น RF rejection ช่วยป้องกันสัญญาณรบกวน
- อุปกรณ์ accessories ครบ จบที่เดียว แทบไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม
- ฟังก์ชั่น “Safety Channel” ช่วยรักษาสมดุลของเสียง
- แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
- เพราะเป็นไมค์ shotgun แบบ supercardioid ทำให้ไมค์เน้นรับเสียงด้านหน้า จึงอาจไม่เหมาะในการต้องบันทึกเสียงอื่นๆ แบบรอบทิศทาง
- ไม่มี XLR output และไม่มี option สำหรับแบตเตอรี่
- ไม่มีขาตั้งในชุด และต้องใช้สาย connector เสริมในกรณีการต่อกับอุปกรณ์
ราคา
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
4. Rode VideoMic Go ll
นอกจากรุ่นต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีน้องใหม่อย่าง Rode VideoMic Go ll ที่แม้จะเป็นรุ่นใหม่ แต่คุณภาพยิ่งใหญ่เกินตัว เพราะเป็นไมค์ที่พัฒนาต่อมาจาก Rode VideoMic Go ซึ่งเป็นไมค์ติดหัวกล้องในตำนาน เป็น Shotgun Mic ที่น้ำหนักเบาเพียงแค่ 89 กรัม ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งกับกล้อง คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ พกพาไปกับคุณได้ทุกที่ เรียกได้ว่าเป็นไมค์ที่เดินรอยเท้ารุ่นพี่อย่าง Rode VideoMic NTG ที่เราได้พูดถึงไปก่อนหน้า
Rode VideoMic Go ll รูปงามมาพร้อมฟีเจอร์ที่ซัพพอร์ตเรื่อง Acoustic Design ที่จะช่วยเสริมศักยภาพในการบันทึกเสียง ผู้บริหารหรือพนักงานบริษัทที่กำลังมองหาไมค์ประชุมออนไลน์ ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี? หรือเหล่า Content Creator ทั้ง Vlogger, Streamer, Podcast แนะนำเป็นตัวนี้เลย หมดกังวลเรื่องเสียงแตก เสียงไม่ชัด ให้คุณบรรจงสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างสมบูรณ์
Rode VideoMic Go ll ไม่ได้มีดีแค่เป็นไมค์เสียงดี แต่เป็นไมค์ที่ใช้ง่ายแบบ Plug and Play แค่เสียบ USB ก็ใช้งานได้เลยทันที ไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ใด ๆ แถมไม่ต้องมีปุ่มหรือสวิตช์ในการตั้งค่าให้ยุ่งยากเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีโฟมกันลมคุณภาพอย่างดีเพื่อการใช้งานแบบ Outdoor รวมทั้ง shock mount ที่บรรจงสร้างสรรค์มาอย่างมืออาชีพ ใช้ได้กับกล้องและขาไมค์ทุกประเภท ให้คุณไม่ต้องห่วงเวลาที่บังเอิญไปโดนหรือขยับไมค์แล้วจะสะเทือนจนมีเสียงเข้าไมค์ได้ค่ะ
ในเรื่องของการใช้งาน Rode VideoMic Go ll นั้นรองรับได้ 2 โหมด อย่างแรกเลยคือจะมี Output แบบ 3.5 mm. สำหรับใช้ในการต่อใช้งานกับกล้อง และอย่างที่สองคือ Output แบบ USB-C สำหรับใช้งานกับมือถือทั้ง Android และ iOS รวมทั้งคอมพิวเตอร์ทั้ง Windows และ Mac โดยแนะนำอุปกรณ์เสริมสายคอนเนคเตอร์สำหรับใช้งาน USB ได้แก่ Rode SC17, Rode SC18, Rode SC19 ค่ะ
นอกจากนี้ ขณะใช้งานโหมด USB ยังสามารถต่อเข้ากับหูฟังได้อีกด้วย เพียงแค่เสียบหัวแจ็ค 3.5 mm. เข้าที่ตัวไมค์ได้เลย แถมยังสามารถใช้งานได้กับ Software ทั้งหมดของ Rode อย่าง Rode Connect, Rode Reporter, Rode Central ซึ่งจะช่วยให้ปลดล็อกศักยภาพให้ผลงานของคุณดีเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม
ซึ่งอย่างแรกเลยที่จะมาแนะนำนะคะ ก็คือการใช้งานร่วมกับ Rode Central ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับคอมพิวเตอร์ โดยจะมีฟังก์ชันที่ช่วยให้สามารถตั้งค่าและควบคุมการทำงานของไมค์ ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB โดยจะมีฟังก์ชันที่จำเป็นอย่างการปรับ Gain ไมค์ที่จะช่วยให้คุณปรับระดับสัญญาณได้อย่างเหมาะสม รวมถึงฟังชั่น 20db Pad ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังได้ หรือช่วยในกรณีที่ที่ปากอยู่ใกล้ไมโครโฟนในขณะที่กำลังพูดบันทึกรายการ Podcast หรือ Streaming มากเกินไปได้อย่างดีมาก ๆ เลยค่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี High Pass Filter เพื่อควบคุมเสียงลมและเสียงย่านความถี่ต่ำที่ไม่ต้องการ อย่างเช่นเสียงแอร์ในห้อง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน High Frequency Boost เมื่อใช้ร่วมกับ WS12 ที่จะช่วยให้มั่นใจได้ยิ่งขึ้นว่าจะได้คุณภาพเสียงที่เคลียร์ใสและฟังชัดขณะบันทึก และยังสามารถปรับระดับความดังของหูฟังผ่าน Rode Central ได้เลยอีกด้วยนะคะ สะดวกมาก ๆ
อย่างที่กล่าวมาแล้ว ว่านอกจาก Rode Central แล้ว Rode VideoMic Go ll ยังทำงานกับ Rode Connect ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ฟรีจาก Rode สำหรับใช้งาน Podcast และ Streaming แถมยังใช้ได้ทั้งกับ Windows และ Mac
การใช้งานก็ง่ายมากค่ะ เพียงแค่เสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วนำไมโครโฟนมาใส่กับขาไมค์ หรือต่อเข้าที่หัวกล้อง จากนั้นเมื่อเปิดโปรแกรมใช้งาน คุณก็จะได้เสียงในการ Podcast และ Streaming ที่ดังฟังชัด คมเฉียบ ให้รายการของคุณสนุกดึงดูดผู้ชมและผู้ฟังมากกว่าเดิมด้วยค่ะ เพราะแค่เพียงคลิกก็ควบคุมการทำงาน Input Gain, Pad, High Pass Filter, High Frequency Boost ของ Rode VideoMic Go ll ได้ทันที ซึ่ง Rode Connect ยังมี Audio Processor คุณภาพสตูดิโอ โดยประกอบด้วย Onboard Noise Gate สำหรับลดเสียบรบกวนรอบข้าง, Compressor ที่ช่วยให้เสียงมีความสมดุล, และ Aphex Audio Processor ในตำนาน ที่ช่วยส่งเสริมให้คุณภาพเสียงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมืออาชีพ
แล้วก็มาถึงแอปพลิคชันสุดท้ายอย่าง Rode Reporter กันนะคะ เป็นแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานกับมือถือหรือแท็บเล็ทโดยเฉพาะ ที่จะช่วยให้การบันทึกเสียงของคุณได้คุณภาพที่ดีกว่าการใช้ไมค์ในตัวที่ได้จากมือถือทั่วไปค่ะ โดยสรุปแล้ว Rode VideoMic Go ll ถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงการไมโครโฟนของ Rode ที่สร้างสรรค์ให้ไมโครโฟนสามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ใช้งานกับอุปกรณ์ได้มากมายโดยไม่ต้องใช้ adaptor แต่ยังคงพัฒนาให้คุณภาพเสียงสมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะใช้ประชุมออนไลน์ ทำรายการ Podcast และ Streaming การใช้งานต่าง ๆ ที่เหมาะกับ Content Creator ทุกสาย ดีพร้อมขนาดนี้ เป็นหนึ่งในลิสต์ไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดี ที่พวกเราเชียร์สุดใจเลยค่ะ
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ราคาเหมาะสม ได้คุณภาพเทียบเท่าไมโครโฟนรุ่นใหญ่
- ได้คุณภาพเสียงที่ดี ไม่แพ้มืออาชีพ
- ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งกล้อง โน้ตบุ๊ก มือถือ เครื่องบันทึกเสียง และ Tablet
- น้ำหนักเบา พกพาไปได้ทุกที
ข้อเสีย
- เพราะเป็นไมค์ Shotgun ทำให้ไมค์เน้นรับเสียงด้านหน้า จึงอาจไม่เหมาะในการต้องบันทึกเสียงอื่น ๆ แบบรอบทิศทาง
- ไม่มี XLR output
- ไม่มีขาตั้งในชุด และต้องใช้สาย connector USB-C เสริมในกรณีใช้ USB output
ราคา
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย
5. Rode Vlogger Kit
ทำความรู้จักไมโครโฟนสำหรับประชุมออนไลน์ และไลฟ์สดกันมาหลายรุ่น คราวนี้ขอแนะนำอีกรุ่นที่เหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อาจจะต้องประชุมนอกสถานที่และต้องประชุมผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ Rode Vlogger Kit ค่ะ ซึ่งเป็นไมโครโฟนที่พัฒนามาเพื่อการใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะเลยค่ะ (แต่จะใช้กับแท็บเล็ตหรือโน็ตบุ๊คก็ได้นะคะ เพียงแต่จะต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกใช้งานเท่าที่ควร) ซึ่ง Rode Vlogger Kit มีด้วยกัน 3 รุ่น ดังนี้ USB-C Edition, iOS Edition, และ Universal รองรับทั้ง Android และ iOS
Rode Vlogger Kit ถูกออกแบบมาได้ให้อุปกรณ์มีพร้อมครบจบในตัวสำหรับการสร้างสรรค์คอนเท้นต์ต่างๆ การไลฟ์สด รวมไปถึงใช้ในการประชุมออนไลน์ หรือจะเป็นการวิดีโอคอลก็ยังได้อีกด้วย ซึ่งในกล่องจะมีอุปกรณ์พร้อมใช้ดังนี้ค่ะ Rode VideoMic, Rode Tripod ll, Smart Grip หรือที่ยึดโทรศัพท์, Micro LED และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อย่างสาย connector ตามแต่ละชนิด เช่น USB-C, Lightning, 3.5 mm., Windshield และ Shock Mount เป็นต้น
การใช้งาน Rode Vlogger Kit นั้นง่ายมากค่ะ เพียงแค่ประกอบ Tripod ll หรือขาไมค์เข้ากับ Smart Grip จากนั้นนำไมโครโฟนมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์มือถือ* และนำ Micro LED มาเสียบเข้ากับ Smart Grip อีกทีค่ะ เผื่อในกรณีอยู่ในที่แสงน้อย Micro LED จะช่วยทำหน้าที่เป็นแฟลชให้แสงสว่างได้ค่ะ เสร็จแล้วเราก็นำโทรศัพท์มือถือมาใส่เข้ากับ Smart Grip – เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ ง่ายมาก ๆ ค่ะ
*สำหรับโทรศัพท์มือถือ Android ที่มีหัวต่อแบบ USB-C ให้ใช้ RODE Vlogger Kit USB-C Edition และ iPhone ที่มีหัวต่อแบบ Lightning ให้ใช้ RODE Vlogger Kit iOS Edition – สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น กล้อง แท็บเล็ท โน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ Android ที่มีหัวต่อ 3.5 mm. ให้ใช้ RODE Vlogger Kit Universal
นอกจากนี้ กรณีที่อาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างมีเสียงดัง หรือเสียงลมแรง สามารถใช้ Windshield หรือขนกันลม เพื่อช่วยซัพพอร์ตและลดความดังของเสียงลม และเสียงภายนอกได้ ทำให้คุณสามารถประชุมออนไลน์ หรือจะวิดีโอคอล โดยไม่ต้องกังวลว่าได้ยินเสียงไม่ชัดอีกต่อไป แต่เพื่อป้องกันบุคคลอื่นจะได้ยินบทสนทนาขณะที่ประชุม คุณสามารถต่อหูฟังเข้ากับไมโครโฟนได้ค่ะ
การต่อหูฟังเพื่อใช้งานกับ Rode Vlogger Kit ก็ทำได้ไม่ยากเช่นกันค่ะ เพียงแค่นำสายหูฟัง 3.5 mm. เสียบเข้าที่ด้านหลังไมโครโฟน ซึ่งเหมาะสำหรับรุ่น iOS Edition และ USB-C Edition แต่สำหรับรุ่น Universal อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง RODE Ai-Micro เพื่อช่วยในการต่อไมค์กับหูฟังและใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือ หรือโน้ตบุ๊กได้สะดวกค่ะ
RODE Ai-Micro เมื่อใช้ร่วมกับ Rode Vlogger Kit Universal จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่าอุปกรณ์ที่มีอยู่ต้องใช้สายต่อแบบไหนอีกต่อไป เพราะภายในกล่องของ RODE Ai-Micro นั้นมีสายต่อที่จำเป็นมาให้ครบถ้วนมากๆ ค่ะ
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- ใช้งานสะดวก และหลากหลาย
- คุณภาพเสียงดี
- ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ทั้งกล้อง โน้ตบุ๊ก มือถือ เครื่องบันทึกเสียง และ Tablet
- น้ำหนักเบา พกพาไปได้ทุกที
- ราคาสบายกระเป๋า เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้รับ และคุณภาพที่ใหญ่กว่าตัว
ข้อเสีย
- เป็นไมค์ shotgun ขนาดเล็ก ระยะรับเสียงสั้น เน้นรับเสียงด้านหน้าไมค์
- ไม่รองรับอุปกรณ์ที่เป็น XLR output
- อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
ราคา
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถตรวจสอบได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ที่นี่
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะซื้อไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหนดี? คงมีตัวเลือกไมค์ไว้ในใจกันบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามการใช้ไมค์ให้เกิดประสิทธิภาพดีที่สุดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในการประชุมด้วย เพราะหากมีเสียงรบกวนเกินไปเสียงก็มีโอกาสเข้าสู่ไมค์ขณะประชุมอยู่ดี ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อไมค์ประชุมออนไลน์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ดี? ไม่ว่าจะเป็นไมค์ประชุมมีสาย ไมค์ประชุมไร้สาย หรือไมค์ประกาศ ลองตรวจสอบสถานที่ให้มีพื้นที่สะท้อนเสียงน้อยที่สุด ควรหาสถานที่แคบหน่อย และอาจปูพื้นด้วยพรมหรือผ้า หรือการปิดผ้าม่านก็ช่วยลดเสียง Echo ได้ระดับหนึ่ง
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่กล่าวมาในบทความนี้ หรือไมค์ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นไมค์ประชุมมีสาย ไมค์ประชุมไร้สาย หรือไมค์ประกาศ สามารถติดต่อมาได้ที่ บริษัท ฟิวชั่น ฟาร์ อีสท์ จำกัด และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย https://fuzion.co.th/dealer-location/
Stay Connected
Sign up below to stay up to date with what we are up to!
———-
#PUKKABRANDS
#ตรงงาน
#ตรงเวลา
#ตรงใจ
———-
🎉🎈🎛🔈🎙️📽️🎬🎈🎉
Line ID: @fuzion
Tel: 02-641-4545
Email: [email protected]
———-
Facebook: Fuzion Far East
Fuzion Facebook Group: Fuzion Privilege Group
Youtube subscribe: fuzionfareastbkk
Instagram: fuzionbkk