แม้ว่าการทำ Podcast จะสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานและน่าสนใจให้กับคุณ เพราะคุณสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองสนใจได้ในคอนเซ็ปต์ที่หลากหลาย และการจัดทำรายการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในส่วนของการตัดต่อ Podcast อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการเตรียมรายการของคุณให้พร้อมสำหรับผู้ฟังของคุณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับ 5 ข้อที่จะช่วยคุณเร่งกระบวนการตัดต่อเพื่อประหยัดเวลาได้ในทุกๆ โปรแกรม DAW ให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม
Christian Cordes | Head Podcast Engineer | A Shared Universe
1. เริ่มด้วยเสียงที่ดี
ยิ่งเสียงของคุณดีตั้งแต่เริ่มต้นเท่าใด คุณก็ยิ่งตัดต่อน้อยลงเท่านั้น — โดยทั่วไปในการตัดต่อ Podcast จะต้องมีคอมพิวเตอร์ที่มี digital audio workstation (DAW) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้ใช้งานได้ฟรี อย่าง Audacity® และ GarageBand® ที่มีฟีเจอร์ครบครันเพียงพอในการทำงานให้สำเร็จได้ รวมถึง Pro DAW อย่างเช่น Pro Tools® และ Logic® ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมขึ้นมาให้สามารถช่วยในการทำงานออกมาได้ดั่งใจมากขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่า DAW อาจจะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน แต่มีฟีเจอร์พื้นฐานแบบเดียวกันที่คุณไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าจะยุ่งยากในการใช้งานอีกต่อไป
WaveLab Cast interface
คุณจะมีเวลาตัดต่อ Podcast ได้ง่ายขึ้น หากเริ่มต้นด้วยเสียงที่ยอดเยี่ยมในระหว่างกระบวนการบันทึกเสียง หากใช้ไมโครโฟนคุณภาพอย่าง ZDM-1 Podcast Mic แทนไมค์ของโทรศัพท์หรือแล็ปท็อป
อีกวิธีหนึ่งในการรับรองคุณภาพเสียงที่คมชัดคือการบันทึกในสถานที่เงียบปราศจากเสียงเครื่องปรับอากาศหรือเสียงรบกวนอื่นๆ หากคุณกำลังบันทึกการสนทนาระหว่างคนสองคนขึ้นไป อย่าลืมบันทึกด้วยไมโครโฟนของแต่ละคน พร้อมทั้งแยก Track การบันทึกด้วย นอกจากนี้จะช่วยให้คุณได้รับเสียงที่มีคุณภาพสูงสุดซึ่งจะทำให้การตัดต่อง่ายขึ้นมาก
2. วางแผนพอดแคสต์ของคุณ
การที่คุณมีแผนก่อนเริ่มบันทึกจะทำให้กระบวนการตัดต่อง่ายขึ้นมาก เขียนโครงร่างของสิ่งที่คุณต้องการครอบคลุมและบันทึก intros และ outros แยกกัน เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเร่งกระบวนการทำงานของคุณ หากคุณมีความคิดชัดเจนเกี่ยวกับรายการตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ และบันทึกเนื้อหาตามที่คิดไว้จะทำให้การตัดต่อตอนสุดท้ายง่ายขึ้น – วิธีที่จะช่วยให้แน่ใจว่าการบันทึกราบรื่น และการตัดต่อราบรื่นเช่นกันนั้น คือการเขียนเค้าโครงเพื่อปฏิบัติตามสำหรับการบันทึก ไม่ว่ารูปแบบรายการของคุณจะเป็นแบบใดก็ตาม เพราะการมีแผนก่อนเริ่มบันทึกจะช่วยให้คุณรู้ว่าต้องการบันทึกอะไรและในลำดับใด สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาในการตัดต่อตอนสุดท้าย
The Zoom PodTrak P4
3. การจัดระเบียบ
เก็บไฟล์เสียงของคุณให้ชัดเจนและจัดระเบียบในโฟลเดอร์ให้เรียบร้อยจะช่วยให้คุณค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายเมื่อตัดต่อ เพื่อให้แน่ใจว่าโปรเจกต์ของคุณได้รับการจัดระเบียบเป็นอย่างดี คุณไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาไฟล์เสียง สามารถนำไปใช้ในการจัดเรียงและตัดต่อ Podcast ได้ทันที ไม่ว่าคุณจะบันทึกลงคอมพิวเตอร์โดยตรงหรือใช้เครื่องบันทึก Podcast อย่างเช่น PodTrak P4 หรือ P8 หรือเครื่องบันทึกพกพา เช่น H8, H6 Black, H5 หรือ H1n ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์เสียงของคุณมีชื่อกำกับ และจัดระเบียบอย่างชัดเจนในโฟลเดอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ หากคุณจะใช้ intro รายการที่บันทึกไว้ล่วงหน้า, สปอนเซอร์หรือโฆษณา, Music Beds หรือเอฟเฟ็กต์เสียง ให้รวบรวมทั้งหมดนี้เตรียมไว้เพื่อนำไปใช้ใน Podcast ของคุณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่มีหลาย Track นั้นมี Time Alignment ที่ตรงและเชื่อมต่อกันหรือไม่
จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ คุณจะเห็นได้ว่าการจัดระเบียบไฟล์เสียงของคุณช่วยให้คุณค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายเมื่อตัดต่อ สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลาและทำงานได้อย่างราบรื่น
ZDM-1 Mic, PodTrak P4 and XLR-4CCP cables/color rings by Zoom
4. ปรับแต่งและขัดเกลา
การใช้หูฟังสำหรับการปรับแต่งขั้นสุดท้าย หูฟังจะช่วยให้คุณได้ยินรายละเอียดปลีกย่อยของเสียงของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตัดต่อของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ
The Zoom ZDM-1 Podcast Mic Pack
แนะนำให้ใช้ ZDM-1 Podcast Mic Pack ชุดไมโครโฟนที่มาพร้อมกับหูฟัง ZHP-1 ซึ่งให้เสียงเต็มรูปแบบที่มีรายละเอียดพร้อมการออกแบบหูฟังแบบปิด (Closed-Back) ซึ่งรับประกันว่าไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม สามารถฟังทั้งรายการอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้แน่ใจว่าการตัดต่อบทสนทนาฟังดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีการตัดความเข้าใจของเนื้อหา ในขณะที่ฟังรายการไปและตัดต่อไปด้วยนั้น คุณยังสามารถปรับปรุงแทร็กเสียงโดยใช้ EQ, การ compress และ gating – DAW ทั้งหมดจะมีชุดเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการประมวลผลและปรับปรุงแทร็กเสียงของคุณ หากคุณพบเสียงรบกวนพื้นหลังมากเกินไปในไฟล์เสียงของคุณ คุณอาจต้องใช้ปลั๊กอินลดเสียงรบกวนจากไฟล์เสียงของคุณ การใช้หูฟังสำหรับการปรับแต่งขั้นสุดท้ายนี้นั้นจะช่วยให้คุณสร้างพอดแคสต์ที่มีคุณภาพสูงได้
ZDM-1 Podcast Mic and ZHP-1 headphones
5. สร้างเทมเพลต
เมื่อคุณตัดต่อตอนแรกแล้ว ให้บันทึกสำเนาเซสชันของคุณพร้อมกับการตั้งค่าทั้งหมดของคุณ สิ่งนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับตอนต่อๆ ไปของคุณ ครั้งถัดไปที่คุณตัดต่อตอนใหม่ ให้เปิดเทมเพลตนี้และนำเข้าไฟล์เสียงใหม่ของคุณไปยังไทม์ไลน์ของ Track ที่ต้องการ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเซสชันการแก้ไขครั้งถัดไปได้ เนื่องจากการจัดระเบียบ และการเตรียมการจำนวนมากทำให้สามารถดูแลจัดการได้ – อย่าลืมฟังคลิปเสียงใหม่ของคุณที่คุณได้ตั้งค่า signal processing ไว้แล้ว และปรับแต่งการตั้งค่าเซสชันเพื่อรักษาคุณภาพเสียงให้สม่ำเสมอในแต่ละตอน นอกจากนี้ยังสามารถอัพเดตเทมเพลตนี้ได้ทุกครั้งที่คุณต้องการแก้ไข วิธีนี้จะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น
สรุป
แม้การตัดต่อ Podcast จะไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนการสร้างหรือโปรโมท แต่ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ จะได้รับประสบการณ์บางอย่าง ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนกระบวนการตัดต่อได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก และใครจะรู้ว่า อย่างน้อยคุณอาจจะเริ่มสนุกกับมัน! หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยคุณตัดต่อ Podcast ของคุณให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น – หากต้องการคำแนะนำในการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับการทำงานของคุณ สามารถติดต่อฟิวชั่น ฟาร์ อีสท์ ได้เลยค่ะ