เพียงการใช้งานครั้งแรกนั้น ทุกคนจะสามารถได้ยินเสียงที่ออกมาโดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับแต่ง ตัดต่อ ด้วยฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ใดๆ ซึ่งการใช้งานนั้นสามารถทำง่ายๆ เพียงแค่เสียบไมโครโฟนเข้ากับอุปกรณ์ต่อพ่วง แล้วตั้งค่าระดับความดัง จากนั้นกดปุ่มตรงกลางร่วมกับปุ่ม compressor จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น Apogee HypeMiC ยังใช้งานร่วมกับ โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ทั้ง Android และ iOS อย่าง iPhone, iPad เป็นต้น โดย Apogee HypeMic ใช้สาย USB ในการเชื่อมต่อได้ ทำให้สะดวกใช้งานและง่ายต่อการพกพา
Features
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะคะว่า ไมโครโฟน Apogee HypeMic ตัวนี้มี Compressor ในตัวที่ปรับได้ พร้อมการตั้งค่า 3 แบบในการ compression และมากไปกว่านั้นไมโครโฟนยังมีรูเชื่อมต่อแบบ headphone jack ขนาด 3.5 มม. สำหรับหูฟังแบบ zero-latency และ ปุ่มหมุนใช้สำหรับปรับ gain input ของไมโครโฟน
– ไม่เพียงเท่านี้ ในกล่องยังมาพร้อมกับขาตั้งไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะ, adapter ขาตั้งไมโครโฟน, สาย lightning (สำหรับ iPhone และ iPad), สาย USB A (สำหรับอุปกรณ์ windows และ Macs), สาย USB C (สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เป็น port รุ่นใหม่ๆ), และ pop filter ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดจะบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าที่ให้มากับไมค์ เรียกได้ว่า ชุดเดียวจบมีครบพร้อมใช้งานได้เลยทันทีค่ะ
คุณภาพของเสียง
Apogee HypeMic จะมี low noise อยู่ที่ -108dBFS และการตอบสนองความถี่ที่มีช่วงกว้างเพียงพอสำหรับการบันทึกเสียงและเครื่องดนตรีขนาดเล็ก เช่น กีต้าร์อะคูสติก เป็นมาตรฐานอยู่แล้วค่ะ และเมื่อมี compressor ในตัวยิ่งทำให้ตอบสนองความต้องการเรื่องคุณภาพของเสียงได้อย่างดีเลยนะคะ
จุดเด่นของไมโครโฟนนี้คือการมี compressor ในตัว หากใช้งานโดยการพูดและการร้องเพลง เจ้าตัวcompressor นี้จะมีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ ในการช่วยปรับแต่งความใสของเสียงและความคมชัด ดังนั้นเราจึงสามารถพูดได้ว่าไมโครโฟน Apogee HypeMic นี้เหมาะกับเสียงร้องมากที่สุด และไม่จำเป็นต้องมี EQ หรือการประมวลผลเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานบันทึกเสียงพูดเลยค่ะ – หรือหากต้องการโทนเสียงเบสที่หนักแน่นยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขยับเข้าไปใกล้ตัวไมโครโฟนมากขึ้นเท่านั้นเอง และสำหรับเสียงเบสที่น้อยลง ก็เพียงแค่ขยับไมโครโฟนให้ห่างออกไป เท่านี้ก็ได้ระยะของเสียงที่ถูกใจแล้วค่ะ และยังสามารถตรวจสอบความดังของเสียงได้ตลอดเวลาผ่านหูฟังเพื่อหาตำแหน่งไมโครโฟนที่เหมาะสม
Apogee HypeMic นั้นมาพร้อมกับ preset compression สามระดับ โดยจะมีไฟ LED แสดงสถานะที่ด้านหน้าไมโครโฟน ทำให้ง่ายในการปรับค่าต่อไปค่ะ – โดยจะไล่ลำดับตามความเหมาะสมในการบันทึกเสียงพูดนะคะ ซึ่งระดับที่ 3 (Smash it) คือระดับ compression ที่ดีที่สุดสำหรับเสียงพูด เสียงร้องเพลง และ เสียงพากษ์ เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการเสียงคุณภาพเหมือนอยู่ในห้องบันทึกเสียง แต่เพราะเป็นระดับที่รับเสียงได้ดีและไวมากๆ จึงอาจทำให้มีเสียงรอบข้างแทรกเข้ามาได้ แนะนำว่าหากมีการใช้งานในสภาพแวดล้อมรอบข้างที่เสียงดังควรปรับ compression เป็นระดับ 2 (Squeeze it) แทนนะคะ ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะกับการใช้งานที่เน้นเสียงพูดน้อยลงมา อาจมีเสียงบรรยากาศรอบข้าง แต่เสียงพูดยังดัง ฟังชัด ใสและเคลียร์ค่ะ เช่น การ Live stream, การทำ Podcast, การพูดคุยสัมภาษณ์รายการ เป็นต้น – และสำหรับระดับที่ 1 (Shape it) นั้นเป็นค่าเริ่มต้น ที่เหมาะการบันทึกเสียงทั่วไปค่ะ แนะนำว่าให้ใช้ในการบันทึกเสียงร้องหรือเสียงดนตรี จะดีมากๆ เลยค่ะ
ไมโครโฟนนี้เหมาะกับใคร?
Apogee ได้วาง HypeMic ให้เป็นไมโครโฟนสำหรับนักดนตรีที่มองหาคุณภาพเสียงดีเยี่ยมระดับมืออาชีพ โดยไม่ต้องมิกซ์เสียงหรือปรับแต่งภายหลัง ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆ แล้วเลยค่ะ แต่มาถึงวันนี้ ยังมีสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม – ด้วยสถานการณ์ที่ต้องมีการเว้นระยะห่าง หรือการทำงนที่บ้าน และแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น แต่การสื่อสารออนไลน์ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานและติดต่อสื่อสารไปแล้ว ทำให้ไมโครโฟนไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ใช้สำหรับงานแสดง หรือ ด้านความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และหลายๆ คนต้องการการสื่อสารที่เข้าใจ ฟังได้ยินเสียงแบบชัดเจน สามารถ set up ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และยังสามารถใช้เพื่องาน Live stream ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้ง Twitch, YouTube, Instagram and Facebook หรือแม้แต่กระทั่งสำหรับอาจารย์, หมอ, ผู้พิพากษา, และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาในการทำงานส่วนใหญ่กับการประชุม, การบรรยาย หรือสัมมนา ก็มีความจำเป็นต้องใช้ไมโครโฟนเพื่อการประชุมเป็นต้น
สำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์การสื่อสารที่มีขนาดเล็กแต่ได้เสียงคุณภาพ ฟังได้คมชัด ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม -- Apogee Hype Mic ถือว่าตอบโจทย์ที่สุดค่ะ เพราะเพียงแค่เสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือของคุณ และตั้งค่า compression ที่คุณต้องการ จัดวางไมโครโฟนในตำแหน่งที่เหมาะสมกับระยะของปาก เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ไม่ต้องมีการเพิ่มสายคอนเนคเตอร์ หรือ Software ใดๆ ก็ทำให้สามารถได้เสียงที่ดีระดับมืออาชีพได้ไม่ยากเลยนะคะ – นอกจากนี้ในการ Live stream คุณยังสามารถเลือก Input microphone ในโปรแกรม ZOOM, Twitch, Discord, หรือ OBS ได้ง่ายๆ และยังสามารถใช้งานร่วมกับ iPhones, iPads หรือ อุปกรณ์ Android อื่นได้
อย่างไรก็ตามนะคะ ไมโครโฟนที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในธุรกิจของการสื่อสารออนไลน์ หรือ Live stream ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ Apogee HypeMiC คุ้มค่าที่จะหามาใช้งานอย่างมากเลยค่ะ
วิธีการใช้งาน
เพียงเสียบสาย USB ที่ไมโครโฟน และต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ตของคุณ – ในกรณีที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊ค ต้องตั้งค่าคำสั่งเสียงให้เป็น Apogee HypeMic ในโปรแกรมที่คุณใช้งาน และหากเป็นอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ให้เสียบไมโครโฟนก่อนที่จะปลดล็อคหน้าจอ แล้วจึงค่อยเปิดแอพพลิเคชั่นที่คุณต้องการใช้งาน ซึ่งเมื่อไมโครโฟนพร้อมที่จะใช้งานแล้ว คุณสามารถตั้งค่า compression level โดยการกดที่ปุ่มด้านหน้าของไมโครโฟนแล้วเลือกระดับ compressor (แนะนำให้เลือกเป็นระดับ 2 หรือ 3) จากนั้นจึงปรับระดับความดังเสียงโดยการหมุน
* Apogee provides tutorials เว็บไซต์แนะนำวิธีการ set up ไมโครโฟน และการใช้งานคู่กับแอพลิเคชั่นทั่วไป เช่น Zoom Meeting บนเว็บไซต์และ customer support
นอกจากนี้แล้วนะคะ เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีขึ้นคุณอาจจะใช้ควบคู่กับหูฟัง และวิธีการก็ง่ายที่สุดคือแค่เชื่อมต่อสายหูฟังกับช่องเสียบหูฟังที่ด้านล่างของไมค์ – สำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คก็จะสนุกขึ้นอีกหน่อย ตรงที่จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมในการใช้หูฟัง เช่น หูฟังไร้สาย และ earbuds
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
เนื่องจาก Apogee HypeMic เป็นไมค์ประเภท condenser (คอนเดนเซอร์) จึงไม่เหมาะใช้งานที่มีสภาพแวดล้อมเสียงดัง และมักจะรับเสียง off-axis มากกว่าไมค์ประเภท dynamic (ไดนามิค) ซึ่งจะส่งผลกระทบเมื่อมีการทำงานร่วมกับ compressor ค่ะ เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มระดับของเสียงรบกวนรอบข้างไปด้วย Apogee HypeMic จึงเหมาะจะใช้งานในสถานที่ที่ต้องมีความเงียบพอสมควร เพราะเป็นไมโครโฟนที่สร้างขึ้นมาเพื่อเสียงพูด
เสียงร้อง และเสียงดนตรี ค่ะ
Apogee HypeMic สามารถทำงานสำหรับเสียงและเครื่องดนตรีได้ดี เพราะจุดเด่นของไมโครโฟนที่มี compressor ในตัว สามารถทำงาน Live stream หรืองานบันทึกเสียงพูดเสียงร้องที่คล่องตัวขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเสียงเพิ่มเติมในภายหลัง
การที่ไมโครโฟนตัวนี้ไม่มีรูเชื่อมต่อ XLR จึงอาจทำให้ยังไม่รองรับกับการใช้งานเสียงที่ต้องใช้อุปกรณ์แบบระบบเสียงใหญ่ๆ เพราะมีเพียง output USB เท่านั้น จึงทำให้ไมโครโฟนนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับ mixer ได้ค่ะ เป็นการตอกย้ำและยืนยันว่า Apogee HypeMic นั้นเหมาะกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือจริงๆ ค่ะ – แต่สำหรับไมโครโฟนน XLR output ก็จะทำให้การทำงานมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะสามารถตั้งค่าและใช้งานไมโครโฟนได้หลายตัวในครั้งเดียว เมื่อต่อเข้ากับ mixer แต่สำหรับการใช้ที่ง่าย คล่องตัว สะดวกใช้งานกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต พกพาได้แล้วล่ะก็ ต้องขอแนะนำ Apogee HypeMic นี่เลยค่ะ
เรียกได้ว่าหากต้องการไมโครโฟนที่เหมาะสำหรับการ Live stream แบบมืออาชีพ และการประชุมออนไลน์ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ด้วยดีไซน์และการออกแบบของไมโครโฟนรุ่นนี้ แสดงให้เห็นว่ามีการวางตลาดและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่เน้นสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานเสียงในแบบ full option ที่มักจะเน้นลักษณะการออกแบบที่ old school – ซึ่ง Apogee HypeMic เน้นการออกแบบที่ simple แต่ทันสมัย ทั้งตัวโลโก้และขนาดบอดี้ไมค์ที่เล็ก รวมไปถึงขาตั้งไมโครโฟนที่อาจจะดูเล็กไปสักหน่อย ที่ถึงแม้จะดูไม่อึดทน เหมือนไมโครโฟนอื่นๆ ที่ใช้กันในการสื่อสาร แต่เมื่อได้นำมาใช้งานจริง คุณจะสัมผัสได้เลยว่า ความเล็กและเบา ทำให้ดูเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ง่ายของ Apogee HypeMic นั้นตอบโจทย์มากกว่าที่คิด
มาพูดกันถึงเรื่องราคา Apogee HypeMic นั้นอาจจะมีราคาที่สูงกว่าไมค์อื่นๆ ใน market tier เดียวกันไปนิดหนึ่ง แต่นั่นเป็นเรื่องมีเหตุผลนะคะ เพราะคุณจะไม่สามารถหาไมโครโฟน USB ที่มี compressor ในตัวแบบนี้ ยังไม่มีใครที่ทำได้ดีเท่ากับ Apogee HypeMic ณ เวลานี้เลยค่ะ เรียกว่าเป็น unique microphone ที่หาได้ยาก และคุ้มค่าจะมีไว้ในมือแน่นอนค่ะ
มาดู Pros & Cons ที่เราได้สรุปมาจากบทความทั้งหมดในหน้านี้ ให้ทุกคนได้ลองพิจารณากันค่ะ
Pros
- Unique items เพราะมี compressor ในตัว
- ใช้งานง่ายด้วยสาย USB ใช้ได้กับทั้ง คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต ระบบ Android และ iOS
- รองรับแอพพลิเคชั่นหลากหลาย ทั้ง Zoom, Twitch, Discord, และ OBS
-
คุณภาพเสียงระดับบรอดคาสท์ เหมาะทั้ง Live
stream,
ประชุมออนไลน์ และ Podcast - ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก
Cons
- วัสดุทำจากพลาสติกเป็นส่วนใหญ่
- ไม่มีรูเสียบสำหรับ XLR
- ราคาค่อนข้างสูง
ราคาสินค้า และสินค้าแนะนำ:
Stay Connected
Sign up below to stay up to date with what we are up to!
———-
#PUKKABRANDS
#ตรงงาน
#ตรงเวลา
#ตรงใจ
———-
🎉🎈🎛🔈🎙️📽️🎬🎈🎉
Line ID: @fuzion
Tel: 02-641-4545
Email: [email protected]
———-
Facebook: Fuzion Far East
Fuzion Facebook Group: Fuzion Privilege Group
Youtube subscribe: fuzionfareastbkk
Instagram: fuzionbkk