สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงานฟิวชั่นก็อยากจะมาแนะนำไมโครโฟนดีๆ จากแบรนด์ APOGEE ที่ได้รับการจัดอันดับโดย MUSICRADAR ว่าเป็นไมค์ที่ตอบโจทย์และรองรับการใช้งานกับระบบ iOS ได้ดีที่สุด – หากคุณเป็นสาวก Apple และกำลังมองหาอุปกรณ์ในการบันทึกเสียง การทำ vlog หรือแม้แต่การประชุมออนไลน์ เราเลยอยากจะมาแนะนำไมโครโฟนที่รองรับและใช้งานได้ดีกับ iPhone และ iPad ค่ะ
ซึ่งอุปกรณ์ iOS ล่าสุดของ Apple นั้นอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ และยังมีในเรื่องประสิทธิภาพเหนือชั้นของ iPad Pro ที่มีชิป M1 เป็นตัวทำงาน และก็ยังมีแล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยจำนวนมาก – จุดเดียวที่อุปกรณ์ทรงพลังและประสิทธิภาพเหล่านี้ขาดหายไป นั่นคือไมโครโฟนในตัว
ในความเป็นจริงคุณภาพเสียงของอุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าเพียงพอในการใช้สนทนา เพราะว่า iOS มีคุณสมบัติ multiple ไมค์ และทาง Apple ยังได้พัฒนาและติดตั้งฟังก์ชั่น noise cancel อีกด้วย – อย่างไรก็ตาม ไมโครโฟนขนาดเล็กเท่าหัวเข็มหมุดเหล่านี้ ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของเสียงเท่าไรนัก
ลองมองย้อนกลับไป 2-3 ปีที่ผ่านมา ระบบ iOS นั้นต่างก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะใช้งานร่วมกับโปรแกรมบันทึกและตัดต่อเสียงอย่าง GarageBand, Cubasis, FL Studio และ AUM – และการเพิ่มเสียงร้องสดอาจจะทำได้ในการแปลงแทร็กที่สร้างขึ้นในแอปพลิเคชันเหล่านี้ แต่ก็คงต้องบอกว่าบางครั้งก็ขึ้นกับดวงด้วยนะคะว่าเสียงที่ได้จะเป็นอย่างไรเมื่อใช้ไมค์ในตัว
ทาง Apogee นั้นคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกับนักแต่งเพลงอย่าง Jon Hopkins, Ryuichi Sakamoto และ Finneas O’Connell ที่มักจะใส่เอกลักษณ์เฉพาะตัวลงในผลงาน อย่างการเพิ่มเสียงบรรยากาศ, หรือเสียงสิ่งของเครื่องใช้ประจำวัน – เมื่อไม่กีปีที่แล้วเราจะต้องใช้เครื่องบันทึกเสียงแบบ field recorder เพื่อให้ได้เสียงเหล่านั้น แต่ในตอนนี้ คุณทำเรื่องเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพียงแค่มีแอพพลิเคชั่นในมือถือ อย่างเช่น Apogee MetaRecorder และ TwistedWave แต่ไม่ว่าอย่างไรไมโครโฟนยังเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อให้ผลงานเสียงออกมาได้ดั่งใจ
เรื่องของเสียงนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับงานเพลงเท่านั้น แต่ปัญหาเสียงนั้นเกิดได้กับงาน vlog หรือ podcast เช่นกัน เพราะคงไม่มีใครสามารถทนฟังเนื้อหาที่ไม่ชัด ฟังไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ยินว่าผู้พูดกำลังพูดอะไรได้อย่างชัดเจน (เช่น เสียงลมพัด, เสียงอื้ออึงโดยรอบ และอื่นๆ) ดังนั้นเราจึงอยากให้คุณเห็นความสำคัญของเสียงมากขึ้น และใช้ไมโครโฟนที่มีคุณภาพทำให้ผลงานของคุณน่าฟังและน่าติดตามมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว เราเชื่อว่าคุณน่าจะให้ความสำคัญกับการใช้ Zoom meeting หรือการประชุมออนไลน์ต่างๆ และต้องการจะให้เสียงของคุณดังและคมชัดมากพอที่จะกลบเสียงรอบข้างได้ – ลองสร้างความประทับใจด้วยไมโครโฟนที่จะทำให้คุณสามารถนำเสนอไอเดียและพรีเซ้นท์ผลงานได้อย่างชัดเจนและเคลียร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานของคุณให้มากขึ้นไปอีกค่ะ
จริงๆ แล้วในเรื่องของเสียงนั้น เมื่อไม่มีไมโครโฟนดีๆ ช่วย นั้นทำให้เราตระหนักได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ นี้นั้น มีประสิทธิภาพและมีความสำคัญขนาดไหนนะคะ – มาดูกันต่อว่า เพียงไมโครโฟนตัวเล็กๆ ที่เหมาะสมนั้นมีคุณภาพที่จะทำให้ iPhone และ iPad ของคุณเป็นได้มากกว่าแค่ gadget ทั่วไป
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หากคุณพบว่าตนเองเป็นคนที่จริงจังกับการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพของเสียง เราก็อยากจะนำเสนอ Apogee HypeMicเป็นนัมเบอร์วันเลยค่ะ ไมโครโฟนตัวนี้การันตีคุณภาพและคุณสมบัติเหมาะสมครบถ้วนที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ – ด้วยปุ่มปรับ gain control และ latency-free monitoring ทำให้คุณสามารถติดตามแท็บในการบันทึกของคุณได้ และยังใช้งานได้ง่าย – ไม่มีอะไรน่ากลัวเกี่ยวกับการใช้ HypeMiC เลยค่ะ แม้คุณจะไม่เคยใช้ไมโครโฟนระดับมืออาชีพมากก่อน
และแน่นอนว่า ยังมีตัว compressor ตัวเด็ด ที่จะช่วยเพิ่มมิติในการทำงานไมโครโฟนได้อย่างน่าทึ่ง
และนี่คือสิ่งที่ MUSICRADAR ได้กล่าวถึงไมโครโฟนจาก Apogee ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นไมค์ที่เหมาะกับ iPhone และ iPad มากที่สุดของปี 2022 นี้ค่ะ
“เรารู้สึกทึ่งกับ Apogee HypeMic เป็นอย่างมาก เมื่อตอนที่เรากำลังรีวิวช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นไมค์ที่เราคิดว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะกับนักร้อง นำพอดแคสต์ และนักดนตรี ที่เราเคยเจอมาและต้องการที่บันทึกเสียงลงในมือถือ iOS
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ HypeMic คือ analog compressor ที่ทำให้เสียงออกมีความดังและเบาเท่าๆ กัน และมีการตั้งค่าได้ 3 อย่างที่รองรับคือ Shape, Squeeze และ Smash – โดยแต่ละค่าจะเพิ่มการบีบอัดข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่รู้อยู่แล้วว่าการใช้งานจริงทุกอย่างในการบันทึกเครื่องดนตรีที่ละเอียดอ่อน ไปจนถึงการแยกเสียงร้องออกมา เราพบว่าผลลัพธ์นั้นค่อนข้างน่าทึ่งและมหัศจรรย์
นอกจากนี้ HypeMic ช่วยให้คุณควบคุมในการบันทึก โดยปุ่ม gain ที่สามารถปรับได้ง่ายและทันที รวมไปถึงไฟ LED ที่แสดงให้เห็นสีแดงเมื่อเสียงดังมากเกินไป – ช่องเสียบหูฟังที่ทำให้คุณสามารถมอร์นิเตอร์สัญญาณเสียงได้แบบ zero latency – แต่คุณก็ยังสามารถผสานได้กับ output จาก DAW อีกด้วย”
ถึงแม้ว่า HypeMic อาจจะไม่ใช่ไมโครโฟนที่ราคาจับต้องได้ง่ายนัก แต่ HypeMic ไม่ได้มาตัวปล่าว ยังมีกระเป๋าเข้าเซ็ทพกพาสะดวก ภายในกระเป๋ามีอุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้ ไม่ว่าจะเป็น tripod ที่แข็งแรงทนทาน และ pop filter อย่างดี และยังมีสายเคเบิลอะแดปเตอร์ครบชุดให้ใช้งานได้กับระบบ iOS, Apple Macs และแม้แต่ Windows PC ก็ตาม
นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับจาก Apogee – ไมโครโฟนคุณภาพระดับมืออาชีพ ทั้งในแง่ของการผลิตและเสียงที่ได้ ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อแน่นอนค่ะ