รายการ Podcast ถือเป็นทางเลือกในการรับฟังสาระและความบันเทิงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะสามารถฟังเมื่อไหร่ก็ได้ อยากฟังเรื่องอะไร ผ่านแฟลตฟอร์มไหนก็เลือกได้หมด และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีออนไลน์จึงทำให้ทุกคนเข้าถึง Podcast ได้ง่ายมากๆ ในฝั่งของ Content Creator เองก็มีนักทำ Podcast หน้าใหม่เกิดขึ้นมาแทบทุกวัน ใครที่กำลังคิดทำโปรเจก Podcast เป็นของตัวเองอยู่ละก็ วันนี้ Fuzion Far East จะพาทุกคนไปพบกับไมค์ทำ Podcast ที่ระดับมืออาชีพเลือกใช้ เลือกซื้อยังไง มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
ก่อนเลือกซื้อไมค์ทำ Podcast ต้องดูอะไรบ้าง
แม้ว่าไมค์จะเป็นอุปกรณ์ทำ Podcastที่สำคัญ แต่ก็ศึกษารายละเอียดหรือสเปคของไมค์แต่ละรุ่นให้ดีว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งาน หรือเหมาะกับเสียงของเรามากที่สุด โดยมีรายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเลือกซื้อไมค์ทำ Podcast ดังนี้
รูปแบบการรับเสียง
โดยทั่วไปไมค์จะมีทิศทางการรับเสียงที่ไม่เหมือนกัน โดยมีแพตเทิร์นหลักๆ ดังนี้
- Cardioid รับเสียงจากทางด้านหน้าเป็นหลัก รับเสียงด้านข้างน้อย ส่วนด้านหลังจะไม่รับเสียงเลย ช่วยลดเสียงรบกวน เน้นเสียงหลัก และควบคุมทิศทางเสียงได้ง่าย
- Supercardioid รับเสียงจากทางด้านหน้าเป็นหลัก รับเสียงด้านข้างน้อย และด้านหลังด้วยเล็กน้อย ให้ทิศทางรับเสียงแคบกว่า Cardioid แต่รับเสียงได้แม่นยำมากกว่า
- Omnidirectional รับเสียงได้รอบทิศทาง สามารถรับเสียงที่มาจากรอบข้างทุกด้านเท่าๆ กัน สะดวกต่อการใช้งานที่มีผู้พูดจำนวนมากในที่ที่จัดเตรียมไว้ แต่อาจจะ ไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่มีเสียงรบกวนมาก
- Figure-of-eight รับเสียงจากทางด้านหน้าและด้านหลังของไมค์ เน้นควบคุมทิศทางเสียง ลดเสียงรบกวนจากด้านข้างได้ดี เหมาะแก่การใช้งานที่มีผู้พูด 2 คนนั่งตรงข้ามกัน
ค่าต่างๆ ของไมค์
ค่าต่างๆ เป็นตัวบ่งชี้ระดับเสียงของไมค์ทุกประเภท โดยมี 2 ส่วนหลักๆ ที่ต้องสังเกต คือ
- ความไวต่อเสียง (Sensitivity) เป็นตัวชี้วัดว่า ไมค์สามารถรับเสียงเบาหรือเสียงที่มีระดับต่ำได้แค่ไหน ยิ่งค่าความไวต่อเสียงมาก ไมค์ก็รับเสียงเบาๆ ได้มาก
- ระดับเสียงสูงสุด (Maximum SPL) เป็นตัวชี้วัดว่า ไมค์สามารถรับเสียงได้ดังแค่ไหน ยิ่งค่าความดังมีตัวเลขที่มาก ไมค์ตัวนั้น ก็จะสามารถใช้งานในสถานที่ ที่มีระดับเสียงดังได้ โดยไม่ทำให้ไมค์เสียหาย
รูปแบบการเชื่อมต่อ
รูปแบบการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์หรือ Interface ของไมค์ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันไมค์ส่วนใหญ่ที่เจอในท้องตลาด จะมีการเชื่อมต่อ 2 แบบ หลักๆ คือ
- การเชื่อมต่อแบบอะนาล็อค ชนิด XLR เป็นการเชื่อมต่อแบบมาตรฐานของไมค์ประเภท ไดนามิค และคอนเดนเซอร์ เป็นการเชื่อมต่อที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก สะดวกมีความทนทานต่อการใช้งาน จะต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์ เช่น มิกเซอร์ หรือออดิโออินเตอร์เฟส
- การเชื่อมต่อแบบดิจิทัล USB นิยมใช้ในไมค์ไดนามิกและไมค์คอนเดนเซอร์ นิยมเรียกไมค์ที่มีการเชื่อมต่อแบบนี้ว่า ไมค์ USB สะดวกต่อการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต และสมาร์ทโฟน
5 รุ่นไมค์ทำ Podcast ยอดนิยม
เมื่อรู้ถึงรายละเอียดเบื้องต้นที่ควรรู้กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาไปทำความรู้จักกับไมค์ทำ Podcast 5 รุ่นที่ Fuzion เลือกมาให้ มีรุ่นไหนน่าใช้งานไปติดตามได้เลย
ZUM-2 Podcast Mic Pack
เริ่มต้นที่ไมค์ทำ Podcast จากแบรนด์ Zoom รุ่น ZUM-2 Podcast Mic Pack เป็นเซตที่มาพร้อมกับไมค์คอนเดนเซอร์คุณภาพสูง ZUM-2 แบบ USB พร้อมขาตั้ง Tripod จับคู่กับหูฟังสเตอริโอ Full Size ZHP-2 เป็นชุดเซตเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับนักทำ Podcast หน้าใหม่ ใช้งานง่ายติดตั้งไม่ยุ่งยาก ให้รายละเอียดเสียงที่ดีลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างดีเยี่ยม มีเอาต์พุตหูฟังในตัว คุณสมบัติเด่นๆ มีดังนี้
- รับเสียงแบบซูเปอร์คาร์ดิออยด์
- ปุ่มปรับระดับเสียงหูฟัง
- ตอบสนองย่านความถี่ 20 Hz – 20 kHz
- คุณภาพเสียง 24 bit Sample Rate 96kHz
- เชื่อมต่อด้วย USB
ZDM-1PMP
ถัดมากับไมค์ทำ Podcast แบบไดนามิกจากแบรนด์ Zoom อีกเช่นกันกับรุ่น ZDM-1PMP เป็นเซตที่จับคู่กันระหว่างไมค์ ZDM-1 พร้อมขาตั้ง Tripod กับหูฟังสเตอริโอ Full Size ZHP-1 เป็นเซตเริ่มต้นอีกชุดที่เหมาะกับนักทำ Podcast ทั้งหน้าใหม่และระดับมืออาชีพ ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก มีตัวกันกระแทกภายในไมค์เพื่อป้องกันเสียงต่ำอย่างรถวิ่งผ่าน หรือเสียงฝีเท้า และมีวงจร Humbucking ช่วยตัดสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า มีคุณสมบัติเด่นดังนี้
- รับเสียงแบบซูเปอร์คาร์ดิออยด์
- ตอบสนองย่านความถี่ 50 Hz – 18 kHz
- เชื่อมต่อแบบ XLR
Rode NT-USB Plus
มาต่อกันรุ่นที่ 3 กับ Rode NT-USB Plus ไมค์คอนเดนเซอร์จากแบรนด์ Rode ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักทำ Podcast ระดับมืออาชีพ เหมาะกับการบันทึกเสียงในสตูดิโอ นอกจากนี้ยังสามารถใช้อัดเสียงได้หลายกิจกรรม เช่น อัดเสียงร้องเพลง พากย์เสียงลงฟุตเทจ และบันทึกเสียงดนตรี เชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต รองรับซอฟต์แวร์จาก Rode ไม่ว่าจะเป็น RØDE Central, RØDE Connect, RØDE Reporter และ UNIFY มีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้
- เชื่อมต่อด้วย USB
- เอาต์พุตหูฟังแบบ Zero-Latency ลดลดการเกิด echo
- รับเสียงแบบคาร์ดิออยด์
- คุณภาพเสียง 16 bit Sample Rate 48kHz
- ตอบสนองย่านความถี่ 20 Hz – 20 kHz
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm. เอาต์พุตแบบ Zero-Latency
Rode PodMic USB
ยังอยู่กับไมค์จากแบรนด์ Rode โดยมาในรุ่น PodMic USB ไมค์คุณภาพเยี่ยมที่เหมาะกับการบันทึกเสียงแบบครบถ้วนทุกกิจกรรม เช่น อัดเสียงรายการ Podcast จัดรายการ Live Streaming ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น เชื่อมต่อได้ง่ายๆ ด้วย USB-C ใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้ไม่ว่าจะเป็น RØDE Connect, RØDE Central, RØDE Capture และ UNIFY มีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้
- เชื่อมต่อได้ทั้งแบบดิจิทัล USB-C และแอนะล็อก XLR
- มี DSP ในตัวสำหรับการประมวลผลเสียงด้วย APHEX® ขั้นสูง
- เสียงรบกวนต่ำ ภาคกำลังขยายสูงด้วย Revolution Preamp™
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm. Zero-Latency สามารถปรับระดับเสียงได้
- Pop Filter ทั้งภายนอกและภายใน
Rode NT-USB Mini
สุดท้ายกับไมค์จาก Rode รุ่น NT-USB Mini เป็นไมค์ขนาดเล็กแต่สเปกไม่เป็นรองใคร ให้คุณภาพเสียงคมชัดระดับเดียวกับสตูดิโอ ใช้งานง่ายเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต เหมาะสำหรับกิจกรรมเสียงหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การจัดรายการ Podcast อัดเสียงร้องเพลง หรือใช้ระหว่างแคสเกมก็ได้ด้วยเช่นกัน มีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้
- เชื่อมต่อด้วย USB-C
- รับเสียงแบบคาร์ดิออยด์
- คุณภาพเสียง 24 bit Sample Rate 48kHz
- ตอบสนองความถี่ 20 Hz – 20 kHz
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm.
สรุปเกี่ยวกับไมค์ทำ Podcast รุ่นยอดนิยมที่มืออาชีพเลือกใช้
การทำ Podcast ที่ดีต้องมาพร้อมเรื่องราวที่น่าสนใจ เทคนิคการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม ควบคู่กับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะไมค์ทำ Podcast ที่จำเป็นจะต้องเลือกสรรรุ่นที่มีสเปกการใช้งานเหมาะกับตัวเรามากที่สุด ช่วยส่งเสริมให้รายละเอียดน้ำเสียงของเราดูดีฟังแล้วรื่นหู ใครที่กำลังเล็งไมค์ตามที่แนะนำในบทความนี้ ติดต่อสอบถามราคาและโปรโมชันกับทาง Fuzion Far East ได้ผ่านเว็บไซต์ของเรา หรือค้นหาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายได้ที่ https://fuzion.co.th/dealer-location/